สพฐ. ย้ำ หนังสือเรียนไข่ต้ม ต้องการสื่อ ความยากแค้น

[luktan1479]

สพฐ. ย้ำ ตำราเรียนไข่ต้ม ต้องการสื่อ ความยากจน ไม่ว่าจะกินอะไร ก็แฮปปี้ได้ จนถึงพร้อมฟังทุกความเห็น ชี้ปรับแต่งทุก 10 ปี

วันที่ 24 เม.ย.2566 นายอัมพร พิทุ่งนาสะ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาเล่าเรียนพื้นฐาน (กพฐ.) เผยกรณีโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ตำราเรียนหนังสือภาษาไทยพาที ระดับชั้น ป.5 ซึ่งมีรายละเอียดว่า กินไข่ต้มครึ่งด้าน ใส่น้ำปลา หรือข้าวไม่คลุกน้ำผัดผักบุ้ง ทำให้ตัวละครในหนังสือสุขสบาย ถือได้ว่าเป็นการเพียงพอ เห็นค่าของชีวิตนั้น ว่า การจัดการทำความเข้าใจวิชาต่างๆจะมีแผนสำหรับการจัดแจงเรียนรู้อยู่ ซึ่งในแต่ละบทเรียนจะกำหนดจุดมุ่งหมายอยู่ว่าต้องการสอนอะไรให้กับเด็กนักเรียนบ้าง ซึ่งการจัดการศึกษา จะมีสื่อประกอบกิจการเรียนการสอน เพื่อให้เด็กนักเรียนเกิดการเรียนรู้ ขึ้นกับอาจารย์ว่าจะนำซีเอไอไหน มาสอนเด็กให้เด็กเกิดวิชาความรู้

โดย หนังสือเรียนภาษาพาที ที่เป็นหัวข้อนั้น เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ให้อาจารย์ใช้ประกอบกิจการสอน เพื่อให้เด็กนำภาษาไปใช้แสดงอารมณ์ความรู้สึก คิด หรือเห็นค่าของความสำราญในชีวิตผ่านวรรณกรรมเพียงแค่นั้น นักเขียนจึงระบุตัวละครสมมุติขึ้น โดยมีตัวละครที่มาจากครอบครัวร่ำรวย แต่ว่าหาความสุขไม่พบ แล้วก็มีตัวละครที่เป็นกำพร้า แม้กระนั้นสามารถแฮปปี้สำหรับเพื่อการใช้ชีวิตด้วยการแบ่งปันกัน

ซึ่งในเรื่องเกี่ยวกับการกินนั้น เนื้อเรื่องมิได้สื่อเรื่องโภชนาการ แม้กระนั้นต้องการสื่อว่าความยากไร้ ไม่ว่าจะกินอะไร อยู่ที่ไหน ก็สามารถแฮปปี้ได้ เมื่อผู้ที่อยู่ในครอบครัวมั่งมีมาเห็น จึงเข้าใจว่าความสุขในชีวิตไม่ได้อยู่ที่สถานที่เกิด หรือขึ้นกับที่อยู่ แม้กระนั้นอยู่ที่ความเข้าใจและก็เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน

"บทเรียนดังที่กล่าวถึงมาแล้ว ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความเข้าใจเรื่องความสบายของชีวิต แน่ๆว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาพื้นฐาน (สพฐ.) ไม่ทิ้งหลักโภชนาการ โดยได้หมายกำหนดการเรียนการสอนเรื่องนี้เอาไว้ในหมวดวิชาสุขวิทยา ทั้ง สพฐ.ได้ให้ความเอาใจใส่กับโภชนาการของเด็กเป็นอย่างมาก มองเห็นได้จากการมีระบบ Thai School Lunch ซึ่งคือระบบที่ช่วยทำให้สถานศึกษาสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพให้แก่นักเรียน

ด้วยเหตุนี้ บทเรียนดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว เป็นการเทียบให้เด็กเกิดกรรมวิธีคิด และได้มีความเห็นว่าความสุขที่จริงจริงอยู่ตรงไหน ดังนี้ ไม่ได้อยากต้องการพูดถึงผู้ใด แม้กระนั้นมีความคิดว่าการเมืองตอนนี้ อยู่ระหว่างแนวทางการขายความคิด วิธีขายแนวทาง ด้วยเหตุนี้ ส่วนไหนที่มีคุณประโยชน์ สพฐ.ในฐานะผู้ปฏิบัติ ก็พร้อมที่จะฟังทุกความคิด ส่วนไหนที่เป็นประโยชน์จะรับฟังและไปประยุกต์" นายอัมพร กล่าว

ผู้รายงานข่าวถามว่า มองว่าดราม่าที่เกิดขึ้นแพร่กระจายไปไกลหรือไม่ นายอัมพร กล่าวว่า ไม่กลุ้มใจว่าจะมีดราม่า เพราะว่า สพฐ.อยู่ภาคการศึกษา ยินดีที่จะฟังทุกความคิดเห็น เพราะเหตุว่ามองว่าทุกความนึกคิดเป็นประโยชน์ ซึ่งตนรู้สึกว่าทุกคนมีวิจารณญาณสำหรับในการวิเคราะห์ แม้กระนั้น การจัดทำหนังสือหนึ่งเล่ม สพฐ.ไม่ได้ทำเพียงผู้เดียว ต้องผ่านวิธีการ ตั้งแต่การตั้งคณะกรรมการจัดทำ และก็ผ่านการตรวจสอบจากนักวิชาการอีกคนจำนวนไม่น้อยจนเห็นเหมือนกันว่าหนังสือที่ออกมาเป็นที่ยอมรับแล้ว ซึ่งตนทราบกันดีอยู่แล้ว เมื่อเวลาผ่านไป เหตุการณ์แปรไป สพฐ.มานะจะทำหนังสือให้ดียิ่งขึ้น ล้ำสมัยมากเพิ่มขึ้น

นักข่าวถามว่า หนังสือภาษาพาทีมีใจความสำคัญดราม่าตั้งแต่ปี 2563 แล้วปีนี้กำเนิดดราม่าขึ้นอีก จะมีการเปลี่ยนแปลงให้ทันสมัยหรือเปล่า นายอัมพร บอกว่า สพฐ.มีการแก้ไขหนังสือเรียนทุกๆ10 ปี เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว รวมทั้งในเวลานี้ สพฐ.เปิดโอกาสให้สำนักพิมพ์เสนอขอปรับแต่งสื่อการสอนของตัวเองได้ ซึ่งสื่อที่ผลิตใหม่เสนอใหม่ถ้าหากมีหลักสูตรใหม่เกิดขึ้นมา หลักสูตรเก่าก็จำเป็นต้องไม่มีการใช้สอนอยู่แล้ว
แบบเรียนไข่ต้ม
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13833/